วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

เรือหลวงจักรีนฤเบศ(เรือรบ)


สำหรับใครที่มาเที่ยวสัตหีบ หลังจากเล่นน้ำทะเลกันเต็มที่แล้ว ก็จะมาชมความยิ่งใหญ่ของเรือหลวงจักรีนฤเบศรกันต่อ ถ้ามาจากหาดนางรำเพียง 10 นาทีก็ถึง ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ บอกทหารที่ป้อมว่ามาชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ในยามปกติเรือหลวงสิมิลันจะจอดอยู่กับเรือหลวงจักรีนฤเบศร
สามารถขับรถเข้ามาที่ท่าเรือได้เลย มีที่จอดกว้างขวาง จอดรถเสร็จเดินไปอีกนิดเดียวก็เจอทางเข้าแล้ว
 
ข้อปฏิบัติการเยี่ยมชม ร.ล.จักรีนฤเบศร
1. ร.ล.จักรีนฤเบศร เปิดให้เยี่ยมชมระหว่างเวลา 09.00 น. – 17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. เรือรบเป็นสถานที่ราชการ โปรดแต่งกายสุภาพ และงดสูบบุหรี่
3. ห้ามนำกระเป๋าสัมภาระ กระเป๋าหรืออาหาร เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง และกล้องวีดีโอขึ้นบนเรือ
4. ห้ามพกอาวุธ และวัตถุอันตรายขึ้นบนเรือโดยเด็ดขาด
5. ชาวต่างประเทศไม่อนุญาตให้เยี่ยมชมเรือ (Foreign visitors require permission from Royal Thai Navy)
6. การเยี่ยมชมเรือให้ใช้เส้นทางเยี่ยมชม เฉพาะบริเวณที่กำหนดเท่านั้น และโปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
7. โปรดแสดงบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรประจำตัวข้าราชการกับเจ้าหน้าที่
8. บุคคลซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย และไม่สามารถปฏิบัติตามข้อปฏิบัติดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เยี่ยมชมเรือ
เมื่ออ่านข้อปฏิบัติแล้วก็เข้าชมกันเลย พอเดินพ้นรั้วเข้ามาก็จะเจอกับ ร.ล.จักรีนฤเบศร
มีคนมาเที่ยวชม พอสมควร เรือหมายเลข 871ทางซ้ายมือมีชื่อว่า ร.ล.สิมิลัน ตอนที่ไป ร.ล.สิมิลัน ไม่ได้ให้ขึ้นชม มีทหารเรืออยู่บน ร.ล.สิมิลัน หลายคนเลย
เข้ามาชมข้างในเรือ บนเรือนิ่งมากเหมือนอยู่บนบกเลย
บนเรือวิวสวยมาก น้ำทะเลสีฟ้า มองเห็นเกาะเต็มไปหมดเลย อดใจไม่ไหวต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูป
เดินไปที่ดาดฟ้าของเรือเป็นจุดจอดเครื่องบิน
แดดแรงใช้ได้เลย
ดาดฟ้าของเรือเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นได้โดยรอบ 180 องศา
รูปสุดท้ายก่อนกลับ ร.ล.สิมิลัน
ประวัติความเป็นมา
เมื่อครั้งเกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ในอ่าวไทยบริเวณ จังหวัดชุมพรในปี พ.ศ.2532 กองทัพเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการหลักในการค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ได้ใช้เรือและอากาศยาน ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ ประสบภัย ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฐานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทยและชาวประมงแต่มีขีดจำกัดในการปฏิบัติการ อันเนื่องจากเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพเรือมีอยู่ขณะนั้น ไม่สามารถทนสภาพทะเลเมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นเกย์ได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทำได้ด้วยความยากลำบากและไม่ได้ผลตามที่กองทัพเรือต้องการ ประกอบกับภารกิจของกองทัพเรือในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเล ซึ่งในปัจจุบันเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ได้ขยายออกไปถึง 200 ไมล์ทะเล
การมีเรือขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจะสามารถใช้ในการค้นหา และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ ตลอดจนการมีเฮลิคอปเตอร์ประจำการบนเรือจะช่วยขยายพื้นที่ในการลาดตระเวน และระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเลได้เป็นเวลานานและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
กองทัพเรือจึงได้มีแนวความคิด ในการสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจตามความมุ่งหมาย และได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ ในการจัดหาเรือและการปฏิบัติภารกิจของเรือ จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 17 มีนาคม 2535 อนุมัติให้กองทัพเรือว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล จำนวน 1 ลำ จากบริษัทบาซาน ประเทศสเปน ในวงเงินประมาณ 7,100 ล้านบาท และกองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างสร้างเรือเมื่อ 27 มีนาคม 2535
ภายในเรือจักรีนฤเบศรประกอบด้วยห้องต่างๆ ทั้งส่วนที่ใช้ปฏิบัติงาน และห้องพัก รวมกว่า 600 ห้อง โดยมีส่วนหลักๆ ดังนี้
  • สะพานเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงานของเรือ
  • หอบังคับการบิน
  • ห้องควบคุมการจราจรทางอากาศ
  • ห้องอุตุนิยมวิทยา
  • ห้องควบคุมดาดฟ้าบิน
  • ห้องบรรยายสรุปการบิน
  • ห้องศูนย์ยุทธการ
  • ห้องครัว
  • โรงพยาบาล ขนาด 15 เตียง มีส่วนสำคัญคือห้องผ่าตัด ทันตกรรม และเอกซเรย์
การเข้าเยี่ยมชม
บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อขอเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรได้ โดยติดต่อแจ้งวันเวลา และจำนวนบุคคลในคณะที่จะมาเยี่ยมชม และส่งจดหมายไปถึงผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กองเรือยุทธการ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20180 (วงเล็บมุมซอง เยี่ยมชมเรือ) หรือโทรศัพท์ 080-5885077 / 038-439479 กองกิจการพลเรือน. กองยุทธการ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเรือ)
แผนที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น